เรื่องต้องรู้! ประกันรถยนต์คุ้มครองภัยพิบัติ น้ำท่วม แผ่นดินไหว

Jun 20, 2025
ทำไมภัยธรรมชาติ ถึงเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด? ไม่ว่าจะเป็น ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน หรือ แผ่นดินไหว ในบางพื้นที่ของไทย ภัยพิบัติจากธรรมชาติไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่หลายคนคิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหรือมีข่าวเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยา
รถยนต์ของเราเสี่ยงถูกน้ำท่วม หรือเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวโดยตรง และข่าวร้ายก็คือ... ประกันรถยนต์ทุกแบบ ไม่ได้คุ้มครองภัยเหล่านี้เสมอไป! แล้วประกันรถยนต์แบบไหนคุ้มครองน้ำท่วม – แผ่นดินไหว?
หลายคนเข้าใจว่า ซื้อประกันรถยนต์ชั้นไหนก็ต้องคุ้มครองทุกกรณีอยู่แล้ว แต่ความจริงคือ ภัยธรรมชาติอย่างน้ำท่วมหรือแผ่นดินไหว มักถูกจัดอยู่ในกลุ่มความคุ้มครองพิเศษ ที่ ไม่รวมอยู่ในประกันทุกประเภทโดยอัตโนมัติ
ประกันชั้น 1 - ครอบคลุมที่สุด
แต่ก็ต้องเช็คให้ชัวร์ หากคุณต้องการความอุ่นใจแบบจัดเต็ม ให้เริ่มจาก ประกันรถยนต์ชั้น 1 เพราะถือว่าให้ความคุ้มครองครบถ้วนที่สุด เพราะความคุ้มครองประกันรถยนต์ชั้น 1 มีรายละเอียดคลอบคลุมดังนี้
- ความเสียหายต่อตัวรถจากอุบัติเหตุ
- ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น
- รถหาย ไฟไหม้
และที่สำคัญประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว
อย่างไรก็ตาม ต้องเน้นว่า ไม่ใช่ประกันชั้น 1 ทุกฉบับจะคุ้มครองภัยธรรมชาติแบบครอบคลุมทั้งหมด เพราะบริษัทประกันบางแห่งอาจให้เป็นส่วนเสริม (Optional Coverage) หรือมีข้อจำกัด เช่น
- คุ้มครองเฉพาะ “น้ำท่วมขณะรถจอด” เท่านั้น
- ไม่ครอบคลุมหากขับลุยน้ำ
- คุ้มครองแผ่นดินไหวเฉพาะบางพื้นที่
คำแนะนำก่อนตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 คือ ตรวจสอบรายละเอียด กรมธรรม์ว่ามีคำว่า ภัยธรรมชาติหรือไม่ และครอบคลุมถึงระดับไหน
ประกันชั้น 2+ และ 3+ - (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข)
โดยส่วนใหญ่แล้วประกันชั้น 2+ และ 3+ ให้ความคุ้มครองบางกรณี ต้องดูเป็นรายฉบับ หลายคนเลือกทำ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือ 3+ เพราะราคาย่อมเยากว่า แต่ยังได้รับความคุ้มครองจากรถชน รถหาย ซึ่งถือว่าคุ้มสำหรับรถที่ใช้งานมาหลายปีแล้ว แต่เมื่อพูดถึงเรื่อง ประกันรถยนต์คุ้มครองน้ำท่วม หรือแผ่นดินไหว ประกันชั้น 2+ / 3+ จะไม่ครอบคลุมภัยธรรมชาติ
แต่ทั้งนี้บางบริษัทประกันอาจมีแผนพิเศษที่รวมไว้ด้วยในบางฉบับ (ต้องเลือกแบบระบุชัดเจน) หรืออาจให้ความคุ้มครองเสริม (Add-on) เพิ่มเข้ามาเพื่อจูงใจลูกค้า
หากคุณเลือกประกันประเภทนี้อยู่ แนะนำให้สอบถามเจ้าหน้าที่ โดยตรงว่าแผนที่เลือกมีความคุ้มครองภัยธรรมชาติหรือไม่ และควรขอใบเสนอราคาหลายแผน เพื่อนำมาเปรียบเทียบ
ประกันรถยนต์ชั้น 2 และ 3 เป็นประกันพื้นฐานที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อบุคคลภายนอก หรือรถชนแบบมีคู่กรณี ซึ่งจะไม่ให้ความคุ้มครองตัวรถผู้ซ์้อประกัน คุ้มครองเฉพาะคู่กรณี และไม่ครอบคลุมกรณีรถหาย ไฟไหม้ หรือภัยธรรมชาติใด ๆ
หากคุณอาศัยอยู่ใน พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมหรือแผ่นดินไหว การเลือกประกันชั้น 2 หรือ 3 เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ และอาจต้องเตรียมเงินซ่อมรถเองเต็มจำนวนหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง
สุดท้ายนี้ อาจได้คำตอบแล้วว่า ประกันรถยนต์ที่คุ้มครองภัยพิบัติ น้ำท่วม แผ่นดินไหว มีแผนไหนที่ตอบโจทย์ช่วงนี้บ้าง ถ้ายังสงสัยจะเลือกประกันรถยนต์คุ้มครองน้ำท่วม - แผ่นดินไหว ต้องเลือกยังไง ASN Broker มีคำแนะนำง่าย ๆ ที่ทำได้ไม่ยากตามนี้เลย
1.เริ่มจาก ประกันชั้น 1 เป็นตัวเลือกหลัก
2.ตรวจสอบเงื่อนไข “ภัยธรรมชาติ” ในกรมธรรม์ก่อนตัดสินใจ
3.หากเลือกชั้น 2+/3+ ต้องเช็กว่ารวมภัยพิบัติไว้หรือไม่
4.ใช้บริการโบรกเกอร์ เช่น ASN Broker เพื่อเปรียบเทียบแผนได้หลายเจ้า พร้อมคำแนะนำจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์
สุดท้ายนี้หากต้องการ คำปรึกษาแบบมืออาชีพ และอยากได้แผนประกันที่ตอบโจทย์ภัยพิบัติในประเทศไทย ASN Broker พร้อมช่วยเลือกประกันรถยนต์ที่ใช่ คุ้มครองครอบคลุม พร้อมผ่อน 0% ได้ตามต้องการ